
บทความบทนี้ เขียนขึ้นมาเพื่อเป็นประโยนช์ต่อผู้ใช้รถยนต์ทั่วไป ตั้งแต่เก่าสมัยโบราณจนถึงขั้นปัจจุบันนี้นะครับ เรื่องดูแลความสะอาดรถสุดที่รัก นั้นถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่งชีพ ภายนอกต้องสะอาด ภายในต้องหอมกลุ่น แต่พอคิดถึงเรื่องจะล้างห้องเครื่องทีไร หลายคนถึงกับ คิดแล้วคิดอีก ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับการล้างห้องเครื่องแบบหลากหลาย บางคนบอกว่า เครื่องหัวฉีดห้ามโดนน้ำบ้าง ล้างแล้วจะทำให้เครื่องรวนบ้าง หรือเครื่องพังไปเลย (เรื่องนี้ผมไม่เถียง แต่เป็นการล้างที่ผิดวิธี) เราก็จะมาเริ่มเรื่องกันเลยดีกว่านะครับ
เพราะเท่าที่ผมได้ไปอ่านมาเห็นมาเยอะมากว่า ห้ามล้างห้องเครื่องโดยเด็ดขาด เครื่องหัวฉีดห้ามโดนน้ำบ้าง ล้างแล้วจะทำให้เครื่องรวนบ้าง หรือเครื่อง พังมั่งละ เครื่องแตกร้าวเพราะมาร้อน ๆ แล้วโดนน้ำในทันทีมั่งละ โอ็ยเยอะครับอีกสาระพัดข้อห้ามเกี่ยวกับห้องเครื่อง เห็นแล้วเวียนหัวแทน555 ผมเลยรวบรวมยกตัวอย่างมีเยอะครับที่อ่านเจอ เอาเป็นข้อ ๆ ไปเลยนะครับ
1.ถ้าจะล้างห้องเครื่องจะมีปัญหามั๊ยครับเกี่ยวกับตัวรถ และพวก แบตเตอรี่ กล่องไฟต่างๆ จะมีปัญหามั๊ยครับ
ตอบคือ ในการที่จะล้างห้องเครื่องนั้น ให้สำรวจตรวจดูก่อนว่า ในห้องเครื่องมีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่สำคัญ ๆ เลยเนี่ย ตัวไหนบ้างนะครับ เช่น กล่อง ECU รถรุ่นใหม่เขาผลิตขึ้นมาให้เสียได้ง่ายขึ้นครับ จะต้องอาถุงมาคลุมไว้สะหน่อยเพื่อกันไม่ให้น้ำนั้นโดนโดยตรง ไดร์ชาร์ท เป็นตัวผลิตกระไฟฟ้าภายในรถยนต์ ตัวนี้เป็นตัวสำคัญตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ครับถ้าไม่มีตัวนี้ ก็จะไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ในรถและทำให้ไม่สามารถวิ่งได้ครับ ปลั๊กแอร์โฟร์ จะอยู่ตรงท่ออากาศหลังจากกรองอากาศมานิดเดียวนะครับควรที่จะคลุมเอาไว้ ปลั๊กทอสเทริน์ จะอยู่ตรงลิ้นปีกผีเสื้อเป็นตัวกำหนดรอบเดินเบาการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้คงที มีสัญญาณ ON/OFF สำคัญมากอีกตัวนึ่ง ควรคลุมเอาไว้ แต่ถ้าเป็นรถยนต์สมัยก่อนที่ยังมีหัวจานจ่าย อยู่นั้น ควรคลุมให้ดี ๆ ครับไม่งั้น ความชื้นสามารถเข้าไปได้เพราะเมื่อมีความร้อนอยู่ในกะลาหัวจานจ่ายนั้น เมื่อโดนความเย็นหรือน้ำเข้าไปนั้นก็จะดูดเอาความเย็นของน้ำที่เขามาบริเวณนั้นเข้าไปแทนที่ความร้อน และทำให้กลายเป็นไอน้ำภายในได้ กระแสไฟที่ถูกจ่ายออกมายังคอล์ยนั้นก็จะไม่สามารถส่งมายังหัวเทียนได้ครับ ส่วนจำพวกปลั๊กเสียบทั้งหลายภายในห้งเครื่องนั้น ไม่ต้องห่วงเลยครับ เพราะเขาต้องทดสอบมาแล้วว่าน้ำหรือแม้กระทั่งความชื้นยังเข้าไปในปลั๊กไม่ได้เลยครับ ไม่งั้นรถที่วิ่ง ๆ มาเจอฝนตกหนัก ๆ วิ่งลุยน้ำท่วมมา น้ำก็เขาปลั๊กหมดแล้วสิครับ วิวัฒนการของยานยนต์นั้นไม่ใช่ของเล่นนะครับ
1.ถ้าจะล้างห้องเครื่องจะมีปัญหามั๊ยครับเกี่ยวกับตัวรถ และพวก แบตเตอรี่ กล่องไฟต่างๆ จะมีปัญหามั๊ยครับ
ตอบคือ ในการที่จะล้างห้องเครื่องนั้น ให้สำรวจตรวจดูก่อนว่า ในห้องเครื่องมีอุปกรณ์ไฟฟ้าที่สำคัญ ๆ เลยเนี่ย ตัวไหนบ้างนะครับ เช่น กล่อง ECU รถรุ่นใหม่เขาผลิตขึ้นมาให้เสียได้ง่ายขึ้นครับ จะต้องอาถุงมาคลุมไว้สะหน่อยเพื่อกันไม่ให้น้ำนั้นโดนโดยตรง ไดร์ชาร์ท เป็นตัวผลิตกระไฟฟ้าภายในรถยนต์ ตัวนี้เป็นตัวสำคัญตัวหนึ่งเลยก็ว่าได้ครับถ้าไม่มีตัวนี้ ก็จะไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ในรถและทำให้ไม่สามารถวิ่งได้ครับ ปลั๊กแอร์โฟร์ จะอยู่ตรงท่ออากาศหลังจากกรองอากาศมานิดเดียวนะครับควรที่จะคลุมเอาไว้ ปลั๊กทอสเทริน์ จะอยู่ตรงลิ้นปีกผีเสื้อเป็นตัวกำหนดรอบเดินเบาการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงให้คงที มีสัญญาณ ON/OFF สำคัญมากอีกตัวนึ่ง ควรคลุมเอาไว้ แต่ถ้าเป็นรถยนต์สมัยก่อนที่ยังมีหัวจานจ่าย อยู่นั้น ควรคลุมให้ดี ๆ ครับไม่งั้น ความชื้นสามารถเข้าไปได้เพราะเมื่อมีความร้อนอยู่ในกะลาหัวจานจ่ายนั้น เมื่อโดนความเย็นหรือน้ำเข้าไปนั้นก็จะดูดเอาความเย็นของน้ำที่เขามาบริเวณนั้นเข้าไปแทนที่ความร้อน และทำให้กลายเป็นไอน้ำภายในได้ กระแสไฟที่ถูกจ่ายออกมายังคอล์ยนั้นก็จะไม่สามารถส่งมายังหัวเทียนได้ครับ ส่วนจำพวกปลั๊กเสียบทั้งหลายภายในห้งเครื่องนั้น ไม่ต้องห่วงเลยครับ เพราะเขาต้องทดสอบมาแล้วว่าน้ำหรือแม้กระทั่งความชื้นยังเข้าไปในปลั๊กไม่ได้เลยครับ ไม่งั้นรถที่วิ่ง ๆ มาเจอฝนตกหนัก ๆ วิ่งลุยน้ำท่วมมา น้ำก็เขาปลั๊กหมดแล้วสิครับ วิวัฒนการของยานยนต์นั้นไม่ใช่ของเล่นนะครับ
2.ช่างที่ศูนย์เขาบอกว่าเวลาล้างรถห้ามใช้น้ำฉีดล้างเครื่องยนต์โดยตรง เดี๋ยวจะทำให้ระบบไฟรวน เพราะเครื่องยนต์ทำงานด้วยระบบไฟฟ้า
ตอบคือ คำว่าเครื่องยนต์ที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้านั้น พูดมาก็ผิดแล้วครับ เพราะเครื่องยนต์นั้นมีการทำงานทั้งระบบน้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า อยู่รวมกันเป็นหนึ่งเดียวในตัวเครื่องยนต์ครับ ส่วนที่ช่างของทางศูนย์นั้นพูดมาว่า ถ้าใช้น้ำฉีดล้างโดยตรงนั้นหมายถึงเจ้าของรถนึกสนุกอยากจะล้างเอง แต่ไม่รู้ว่าต้องคลุมตัวไหนบ้าง มาถึงก็ฉีดน้ำเข้าไปเลยเนี่ย ถ้าเป็นประเด็นนี้ โอเคถูกต้องเลยครับ น้ำจะเข้าไปยังทุก ๆ ที ที่น้ำสามารถวิ่งเข้าไปถึงได้ และอย่างที่บอกมาในข้อ หนึ่ง ว่าส่วนสำคัญมีอะไรบ้างนั้น คำตอบมีอยู่แล้วครับ หรืออีกกรณีนึ่งคือ เข้าร้านคาร์แคร์ที่มีการรับบริการล้างห้องเครื่องนั้นก็ต้องสอบถามที่เจ้าของร้านก่อนเลยครับว่ามีความสามารถในการล้างหรือไม่ แล้วถ้าล้างมาเครื่องยนต์มีปัญหาคือ สตาร์ทไม่ติดทางร้านจะรับผิดชอบอย่างไร เพราะมันจะมีอยู่ปัญหาเดียวเท่านั้นละครับ หรือไม่ก็สตาร์ทติดแต่เครื่องเดินไม่เรียบเดินสดุดเป็นจังหวะ คุยให้จบก่อนใช้บริการครับผม
ตอบคือ คำว่าเครื่องยนต์ที่ทำงานด้วยระบบไฟฟ้านั้น พูดมาก็ผิดแล้วครับ เพราะเครื่องยนต์นั้นมีการทำงานทั้งระบบน้ำมัน แก๊ส ไฟฟ้า อยู่รวมกันเป็นหนึ่งเดียวในตัวเครื่องยนต์ครับ ส่วนที่ช่างของทางศูนย์นั้นพูดมาว่า ถ้าใช้น้ำฉีดล้างโดยตรงนั้นหมายถึงเจ้าของรถนึกสนุกอยากจะล้างเอง แต่ไม่รู้ว่าต้องคลุมตัวไหนบ้าง มาถึงก็ฉีดน้ำเข้าไปเลยเนี่ย ถ้าเป็นประเด็นนี้ โอเคถูกต้องเลยครับ น้ำจะเข้าไปยังทุก ๆ ที ที่น้ำสามารถวิ่งเข้าไปถึงได้ และอย่างที่บอกมาในข้อ หนึ่ง ว่าส่วนสำคัญมีอะไรบ้างนั้น คำตอบมีอยู่แล้วครับ หรืออีกกรณีนึ่งคือ เข้าร้านคาร์แคร์ที่มีการรับบริการล้างห้องเครื่องนั้นก็ต้องสอบถามที่เจ้าของร้านก่อนเลยครับว่ามีความสามารถในการล้างหรือไม่ แล้วถ้าล้างมาเครื่องยนต์มีปัญหาคือ สตาร์ทไม่ติดทางร้านจะรับผิดชอบอย่างไร เพราะมันจะมีอยู่ปัญหาเดียวเท่านั้นละครับ หรือไม่ก็สตาร์ทติดแต่เครื่องเดินไม่เรียบเดินสดุดเป็นจังหวะ คุยให้จบก่อนใช้บริการครับผม
3.ห้ามล้างตอนเครื่องยนต์ร้อนๆ เพราะเครื่องยนต์ที่ร้อน (โลหะ)เมื่อโดนความเย็นทันทีทันใดจะทำให้เกิดการหดตัวร้าวและแตกได้ โดยเฉพาะการขับรถมาระยะไกลๆ ห้ามล้างโดยเด็ดขาด
ตอบคือ ล้างตอนเครื่องยนต์ ร้อน ๆ นั้นสามารถล้างได้ตามปกติครับ แค่ขอเวลาให้พักเครื่องสัก 10 -15 นาที เท่านี้ความร้อนก็ลดลงมาได้เยอะแล้วครับ และสิ่งที่สำคัญนะครับรถวิ่งมาไกลมากแล้วมาเจอฝนตกหนัก น้ำท่วม เครื่องก็ต้องพังแล้วสิครับ เครื่องยนต์ถูกออกแบบมาให้ทนต่อสภาพแวดล้อมรอบด้านนะครับ และในเครื่องยนต์นั้นเองก็มีน้ำเป็นตัวหล่อเย็นระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์และน้ำมันเครื่องที่ขึ้นไปเลี้ยงพวกเพลาข้อเหวี่ยง คือว่าง่าย ๆ เลี้ยงให้ลื่นทุกจุดที่มีการเคลื่อนไหวดีกว่าเข้าใจง่ายดี แต่ถ้าเป็นเหล็กหรือเครื่องยนต์ที่ไม่มีน้ำเป็นตัวระบายความเช่นเครื่องยนต์ รถยนต์ยี่ห้อ โฟลค์สวาเกน รถเต่า ง่ายดีครับ ตัวนี้ไม่มีน้ำเป็นตัวระบายความร้อนนะครับ แต่ใช้อากาศเป็นตัวระบายความและน้ำมันเครื่องนั้นเองครับ หรือเครื่อง มอเตอร์ไซด์ครับ เครื่องยนต์จำพวกนี้ก็ล้างได้ตามปกติเหมือนกันครับ
ตอบคือ ล้างตอนเครื่องยนต์ ร้อน ๆ นั้นสามารถล้างได้ตามปกติครับ แค่ขอเวลาให้พักเครื่องสัก 10 -15 นาที เท่านี้ความร้อนก็ลดลงมาได้เยอะแล้วครับ และสิ่งที่สำคัญนะครับรถวิ่งมาไกลมากแล้วมาเจอฝนตกหนัก น้ำท่วม เครื่องก็ต้องพังแล้วสิครับ เครื่องยนต์ถูกออกแบบมาให้ทนต่อสภาพแวดล้อมรอบด้านนะครับ และในเครื่องยนต์นั้นเองก็มีน้ำเป็นตัวหล่อเย็นระบายความร้อนให้กับเครื่องยนต์และน้ำมันเครื่องที่ขึ้นไปเลี้ยงพวกเพลาข้อเหวี่ยง คือว่าง่าย ๆ เลี้ยงให้ลื่นทุกจุดที่มีการเคลื่อนไหวดีกว่าเข้าใจง่ายดี แต่ถ้าเป็นเหล็กหรือเครื่องยนต์ที่ไม่มีน้ำเป็นตัวระบายความเช่นเครื่องยนต์ รถยนต์ยี่ห้อ โฟลค์สวาเกน รถเต่า ง่ายดีครับ ตัวนี้ไม่มีน้ำเป็นตัวระบายความร้อนนะครับ แต่ใช้อากาศเป็นตัวระบายความและน้ำมันเครื่องนั้นเองครับ หรือเครื่อง มอเตอร์ไซด์ครับ เครื่องยนต์จำพวกนี้ก็ล้างได้ตามปกติเหมือนกันครับ
4.ห้ามล้างด้วยการฉีดน้ำแรงดันสูง เพราะแรงดันน้ำจะทำให้มีโอกาสรั่วซึ่มเข้าไปในระบบได้ หากไม่ได้มีการเป่าให้แห้งก่อนนำไปขับขี่โดยเฉพาะ อัลเทอร์เนเตอร์ หรือ ที่เรียกกันอีกชื่อว่า ไดร์ชาร์ท เพราะน้ำจะทำให้เกิดค่าความชื้นในขดลวดแล้วเกิดการลัดวงจรเสียหายได้
ตอบคือ การฉีดน้ำแรงดันสูงนั้นสามารถฉีดได้ตามปกติไปที่เครื่องยนต์ได้เลยครับแต่ที่สำคัญ คนที่ทำสมควรจะเป็นช่างผู้ชำนานการเท่านั้นครับ และระยะการฉีดน้ำแรงดันสูงนั้นต้องมีระยะห่างพอสมควรครับ และในปัญหาที่ว่าน้ำจะรั่วซึมเข้าไปในระบบของวงจรไดร์ชาร์ทนั้น ถ้าเป็นการล้างแบบใช้น้ำฉีดแล้วไม่คลุมเอาไว้เนี่ย มีปัญหาแน่นอนครับ แต่ถ้าความชื้นเพียงเล็กน้อยเข้าไปในระบบของไดร์ชาร์ทนั้นไม่มีทางที่จะมีปัญหาครับ อย่าลืมนะครับ รถบ้านเราวิ่งกันเจอทั้งฝนตก แดดออก ลุยน้ำท่วม และไปเปิดดูห้องเครื่องแต่ละยี่ห้อสิครับ ไดร์ชาร์ทรับทั้งลมทั้งน้ำเต็ม ๆ ครับทำไม ไม่เห็นพังละครับในขณะขับขี่ เพราะจะด้วยความร้อนที่มีอยู่ก็ดี หรืออากาศที่ช่วยถ่ายเท่ก็ดีครับ เขาต้องสร้างขึ้นมาเพื่อทนต่อสภาวะแวดล้อมอยู่แล้วนะครับ รถราคาเป็นแสนนะครับไม่ใช่บาท สองบาท ถึงซื้อมาใช้แล้วเสียง่ายเนี่ย
ตอบคือ การฉีดน้ำแรงดันสูงนั้นสามารถฉีดได้ตามปกติไปที่เครื่องยนต์ได้เลยครับแต่ที่สำคัญ คนที่ทำสมควรจะเป็นช่างผู้ชำนานการเท่านั้นครับ และระยะการฉีดน้ำแรงดันสูงนั้นต้องมีระยะห่างพอสมควรครับ และในปัญหาที่ว่าน้ำจะรั่วซึมเข้าไปในระบบของวงจรไดร์ชาร์ทนั้น ถ้าเป็นการล้างแบบใช้น้ำฉีดแล้วไม่คลุมเอาไว้เนี่ย มีปัญหาแน่นอนครับ แต่ถ้าความชื้นเพียงเล็กน้อยเข้าไปในระบบของไดร์ชาร์ทนั้นไม่มีทางที่จะมีปัญหาครับ อย่าลืมนะครับ รถบ้านเราวิ่งกันเจอทั้งฝนตก แดดออก ลุยน้ำท่วม และไปเปิดดูห้องเครื่องแต่ละยี่ห้อสิครับ ไดร์ชาร์ทรับทั้งลมทั้งน้ำเต็ม ๆ ครับทำไม ไม่เห็นพังละครับในขณะขับขี่ เพราะจะด้วยความร้อนที่มีอยู่ก็ดี หรืออากาศที่ช่วยถ่ายเท่ก็ดีครับ เขาต้องสร้างขึ้นมาเพื่อทนต่อสภาวะแวดล้อมอยู่แล้วนะครับ รถราคาเป็นแสนนะครับไม่ใช่บาท สองบาท ถึงซื้อมาใช้แล้วเสียง่ายเนี่ย
5.อย่า เคลือบแว๊ก หรือ พ่นน้ำมันในห้องเครื่อง
การเคลือบแว๊ก หรือ พ่นน้ำมันในห้องเครื่อง(ชอบใช้โซล่า หรือเบนซินพ่น) จะทำให้ฉนวนหุ้มสายไฟ PVC เกิดการบวมและนำพาสู่ความเสียหายเพราะเกิดการแข็งตัวของสายไปที่เจอน้ำมัน และจะเป็นการสะสมฝุ่นโดยไม่รู้ตัวในซอกที่เราเข้าทำความสะอาดไม่ได้ เพราะคราบแว๊ก หรือ น้ำมันจะจับฝุ่นเป็นอย่างดี
ประการสำคัญ แว๊ก หรือ น้ำมันที่พ่นเคลือบ จะทำให้เราไม่รู้ว่า รถเรามีการรั่วซึ่มหรือไม่ในอนาคต เพราะแยกไม่ออกนั่นเอง
ตอบคือ หลังจากการล้างห้องเครื่องเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ควรนำลมมาเป่าให้แห้งให้สนิทก่อนเป็นอันดับแรกเลยนะครับ และสิ่งสำคัญต่อไปคือการลงแว๊กนั้น จะต้องดูว่า สิ่งที่นำมาใช้หรือน้ำยาแว๊กนั้นเอง เป็นน้ำมันหรือแว๊กจริง ๆ นะครับ ถ้าเข้าร้านให้เขาทำให้ สอบถามก่อนเลยว่าเป็นน้ำมันผสมหรือแว๊กจริง ๆ ถ้าเป็นน้ำมันผสมจะอะไรก็แล้วแต่นะครับ ผมไม่สนับสนุนให้แว๊กเครื่องเพียงเพื่อให้เครื่องนั้นเงางาม แต่สิ่งสำคัญที่ตามมานั้นอย่าที่ข้อความข้างต้นได้บอกมาครับ จะทำให้ยางบวมหรือสายไฟแข็งกว่าปกติครับการใช้งานก็จะดูสั้นลง แต่เปล่าเลยครับ มันทำให้แข็งเฉย ๆ ครับแต่ถ้าบางส่วนที่เป็นฟองน้ำภายในห้องเครื่องยนต์นั้นมีผลแน่นอนครับ แต่ถ้าเป็นน้ำยาแว๊กที่ใช้แว๊กกันจริง ๆ แล้วนั้นไม่มีสารที่จะกัดหรือมีผลข้างเคียงต่อสายไฟเลยครับ และสิ่งที่สำคัญการลงแว๊กก็ต้องดูด้วยว่า ณ. ที่ร้านให้บริการนั้นเขาลงให้แฉะหรือไม่ ถ้าแฉะดูเยิ้ม อันนี้ไม่ดีแน่นอนครับเพราะจะทำให้มีฝุ่นเกาะและดูสกปรกมากกว่าเก่าเมื่อใช้งานไปแล้วและจะทำให้ดูบริเวณรอบเครื่องนั้นยากขึ้น เพราะความเยิ้มของน้ำยาแว๊กนั้นเองครับ จะลงยังไงก็ได้ครับที่ลงแล้วต้องแห้งสนิทเอามือลูบแล้วไม่แฉะติดมือขึ้น เมื่อฝุ่นเกาะสามารถเอาไม้ขนไก่มาปัด ๆ ออกก็ต้องหมดแล้วเงางามเหมือนเดิมครับ นี้คือสิ่งสำคัญที่ต้องทำ หรือทางออกสุดท้ายครับ ไม่ต้องลงอะไรทั้งสิ้นเมื่อล้างห้องเครื่องทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วนั้นเอาลมเป่าให้แห้งอย่างเดียวครับ แค่นี้ก็สะอาดได้เหมือนกันครับ
การเคลือบแว๊ก หรือ พ่นน้ำมันในห้องเครื่อง(ชอบใช้โซล่า หรือเบนซินพ่น) จะทำให้ฉนวนหุ้มสายไฟ PVC เกิดการบวมและนำพาสู่ความเสียหายเพราะเกิดการแข็งตัวของสายไปที่เจอน้ำมัน และจะเป็นการสะสมฝุ่นโดยไม่รู้ตัวในซอกที่เราเข้าทำความสะอาดไม่ได้ เพราะคราบแว๊ก หรือ น้ำมันจะจับฝุ่นเป็นอย่างดี
ประการสำคัญ แว๊ก หรือ น้ำมันที่พ่นเคลือบ จะทำให้เราไม่รู้ว่า รถเรามีการรั่วซึ่มหรือไม่ในอนาคต เพราะแยกไม่ออกนั่นเอง
ตอบคือ หลังจากการล้างห้องเครื่องเสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น ควรนำลมมาเป่าให้แห้งให้สนิทก่อนเป็นอันดับแรกเลยนะครับ และสิ่งสำคัญต่อไปคือการลงแว๊กนั้น จะต้องดูว่า สิ่งที่นำมาใช้หรือน้ำยาแว๊กนั้นเอง เป็นน้ำมันหรือแว๊กจริง ๆ นะครับ ถ้าเข้าร้านให้เขาทำให้ สอบถามก่อนเลยว่าเป็นน้ำมันผสมหรือแว๊กจริง ๆ ถ้าเป็นน้ำมันผสมจะอะไรก็แล้วแต่นะครับ ผมไม่สนับสนุนให้แว๊กเครื่องเพียงเพื่อให้เครื่องนั้นเงางาม แต่สิ่งสำคัญที่ตามมานั้นอย่าที่ข้อความข้างต้นได้บอกมาครับ จะทำให้ยางบวมหรือสายไฟแข็งกว่าปกติครับการใช้งานก็จะดูสั้นลง แต่เปล่าเลยครับ มันทำให้แข็งเฉย ๆ ครับแต่ถ้าบางส่วนที่เป็นฟองน้ำภายในห้องเครื่องยนต์นั้นมีผลแน่นอนครับ แต่ถ้าเป็นน้ำยาแว๊กที่ใช้แว๊กกันจริง ๆ แล้วนั้นไม่มีสารที่จะกัดหรือมีผลข้างเคียงต่อสายไฟเลยครับ และสิ่งที่สำคัญการลงแว๊กก็ต้องดูด้วยว่า ณ. ที่ร้านให้บริการนั้นเขาลงให้แฉะหรือไม่ ถ้าแฉะดูเยิ้ม อันนี้ไม่ดีแน่นอนครับเพราะจะทำให้มีฝุ่นเกาะและดูสกปรกมากกว่าเก่าเมื่อใช้งานไปแล้วและจะทำให้ดูบริเวณรอบเครื่องนั้นยากขึ้น เพราะความเยิ้มของน้ำยาแว๊กนั้นเองครับ จะลงยังไงก็ได้ครับที่ลงแล้วต้องแห้งสนิทเอามือลูบแล้วไม่แฉะติดมือขึ้น เมื่อฝุ่นเกาะสามารถเอาไม้ขนไก่มาปัด ๆ ออกก็ต้องหมดแล้วเงางามเหมือนเดิมครับ นี้คือสิ่งสำคัญที่ต้องทำ หรือทางออกสุดท้ายครับ ไม่ต้องลงอะไรทั้งสิ้นเมื่อล้างห้องเครื่องทำความสะอาดเรียบร้อยแล้วนั้นเอาลมเป่าให้แห้งอย่างเดียวครับ แค่นี้ก็สะอาดได้เหมือนกันครับ
6. เตือนรถยนต์ที่ติดแก๊ส "อย่าล้างห้องเครื่อง" ผมเห็นมา 2-3 รายแล้ว ที่ไปล้างห้องเครื่องมา หัวฉีด มันจะมีปัญหา น้ำอาจจะเข้าได้ หรือล้างตู้แอร์ แล้วน้ำเข้า กล่อง ECU ของแก๊ส ผลที่ออกมาคือ เจ๊งกะโบ้งคับ เสียเงินกันอีก
ตอบคือ เครื่องยนต์ที่มีการติดแก๊สมานั้น ก็สามารถล้างห้องเครื่องได้ตามปกติครับไม่มีอะไรที่จะล้างไม่ได้ครับ แค่ดูให้ดีครับว่าส่วนไหนที่เป็นส่วนสำคัญสำหรับระบบแก๊ส ก็เอาคลุมไว้ให้เรียบร้อยก็สามารถล้างได้เหมือนกันครับ ขอให้นึกให้สำคัญว่าร้านที่ผู้ขับขี่รถยนต์นั้นจะนำรถที่ท่านรักไปรับการบริการล้างห้องเครื่องนั้น จะต้องเป็นช่างผู้ชำนานการจริง ๆ ครับ ไม่สำคัญหรอกครับว่าจะต้องเป็นร้านหรูดูดีมีระดับ ร้านบ้าน ๆ ก็ทำได้ หรือแม้กระทั่งร้านที่อยู่ในปั๊มก็ตามแต่ เพียงแต่ว่าก่อนที่จะล้างหรือเข้าไปใช้บริการที่ร้านนั้น ๆ ศึกษาหรือหาข้อมูลก่อนครับว่าร้านไหนที่เขาสามารถทำได้ โดยรถที่ท่านรักนั้นไม่มีปัญหาตามมาที่หลังครับ ปัญหาทุกปัญหายอมมีทางออกและคำตอบในตัวมันเองครับ
ข้อดีการล้างห้องเครื่องนั้นทำให้ห้องเครื่องจะสะอาด ลดการสะสมความร้อนของตัวถังเครื่องยนต์ ที่เกิดจากฝุ่น ดิน ทราย ที่เกาะกับตัวถังของเครื่องยนต์ ทำให้การพิจารณาหาจุดรั่วซึมทำได้ง่ายขึ้น ช่างที่ซ่อมก็อยากจะซ่อม เมื่อเปรียบเทียบกับ รถที่สกปรก ขายรถต่อได้ราคาดีขึ้น
ตอบคือ เครื่องยนต์ที่มีการติดแก๊สมานั้น ก็สามารถล้างห้องเครื่องได้ตามปกติครับไม่มีอะไรที่จะล้างไม่ได้ครับ แค่ดูให้ดีครับว่าส่วนไหนที่เป็นส่วนสำคัญสำหรับระบบแก๊ส ก็เอาคลุมไว้ให้เรียบร้อยก็สามารถล้างได้เหมือนกันครับ ขอให้นึกให้สำคัญว่าร้านที่ผู้ขับขี่รถยนต์นั้นจะนำรถที่ท่านรักไปรับการบริการล้างห้องเครื่องนั้น จะต้องเป็นช่างผู้ชำนานการจริง ๆ ครับ ไม่สำคัญหรอกครับว่าจะต้องเป็นร้านหรูดูดีมีระดับ ร้านบ้าน ๆ ก็ทำได้ หรือแม้กระทั่งร้านที่อยู่ในปั๊มก็ตามแต่ เพียงแต่ว่าก่อนที่จะล้างหรือเข้าไปใช้บริการที่ร้านนั้น ๆ ศึกษาหรือหาข้อมูลก่อนครับว่าร้านไหนที่เขาสามารถทำได้ โดยรถที่ท่านรักนั้นไม่มีปัญหาตามมาที่หลังครับ ปัญหาทุกปัญหายอมมีทางออกและคำตอบในตัวมันเองครับ
ข้อดีการล้างห้องเครื่องนั้นทำให้ห้องเครื่องจะสะอาด ลดการสะสมความร้อนของตัวถังเครื่องยนต์ ที่เกิดจากฝุ่น ดิน ทราย ที่เกาะกับตัวถังของเครื่องยนต์ ทำให้การพิจารณาหาจุดรั่วซึมทำได้ง่ายขึ้น ช่างที่ซ่อมก็อยากจะซ่อม เมื่อเปรียบเทียบกับ รถที่สกปรก ขายรถต่อได้ราคาดีขึ้น
ล้างห้องเครื่อง เล็กแค่นั้นใครว่าง่าย หากคุณไม่เคยชะล้างมาก่อนแต่อยากจะล้างเอง เพราะไม่อยากจะไปเสียเงินให้ร้าน หรืออาจจะคิดว่าแค่นี้เองล้างเองก็ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วคุณมีความคิดที่ผิด เพราะการชะล้างเครื่องนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย เพราะคุณจำเป็นต้องรู้ว่าตรงไหนโดนน้ำได้ ตรงไหนโดนไม่ได้ หากคุณทำพลาดไปฉีดน้ำตรงที่ไม่ควรจะโดนน้ำหรือล้างที่ผิดวิธีล่ะก็ รับรองรถของคุณมีอาการงอแงแน่นอน ดังนั้นหากคุณไม่เคยทำมาก่อน หรือทำความเข้าใจถี่ถ้วน ขอแนะนำว่าควรไปให้ร้านที่ให้บริการด้านนี้ทำให้จะดีกว่า เพื่อความปลอดภัยของตัวรถ แม้คำว่า ล้าง ห้องเครื่อง จะดูง่าย แต่จริงๆ แล้วหากทำไม่เป็นรับรองว่าจ่ายมากกว่าหลักร้อยแน่นอน
ผมก็ขอไขข้องใจและสงสัยอะไรหลาย ๆ อย่างให้หายข้องใจกันเรียบร้อยแล้วนะครับ
ด้วยความปรารถนาดีและมีความจริงใจจาก GAPCARWASH DETAILCENTER
By. ช่างโต้ง GAPCARWASH DETAILCENTER
ด้วยความปรารถนาดีและมีความจริงใจจาก GAPCARWASH DETAILCENTER
By. ช่างโต้ง GAPCARWASH DETAILCENTER