
สำหรับท่านเจ้าของรถทุกท่านคงจะไม่มีใครปฏิเสธว่า การดูแลรักษาเครื่องยนต์และการทำความสะอาดรถเป็นประจำนั้น มีความสำคัญอยู่ไม่น้อยจะขอแนะนำวิธีการรักษาพรมในรถยนต์ด้วยตัวท่านเอง ซึ่งทำได้ไม่ยากนัก
พรมภายในรถยนต์ นอกจากจะช่วยปกปิดความแข็งกระด้างของโลหะตัวถังพื้นรถแล้ว ยังช่วยเพิ่มความนุ่มนวลจากการสัมผัส ตลอดทั้งช่วยเสริมให้รถดูภูมิฐานสมราคา ไม่เพียงเท่านั้น พรมยังมีคุณประโยชน์อื่นๆ ซึ่งสามารถแยกเป็นประเด็นใหญ่ๆ ได้ดังนี้
- พรมยังมีคุณประโยชน์อื่นๆ ซึ่งสามารถแยกเป็นประเด็นใหญ่ๆ ได้ดังนี้ฉนวนป้องกันความร้อน ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงานจะมีความร้อน จากเครื่องยนต์ส่งผ่านไปยัง ท่อไอเสียที่ติดตั้งอยู่ใต้พื้นรถ นอกจากนั้น ในเวลากลางวันผิวถนนที่ถูกแสงแดดเผา จะมีความร้อน สูงมาก เมื่อรถแล่นไปเหนือผิวถนนก็จะรับเอา ความร้อนเข้ามาทาง พื้นห้อง โดยสาร ซึ่งพรมจะช่วยป้องกันความร้อนได้ระดับหนึ่ง
- ช่วยควบคุมอุณหภูมิในห้องโดยสารให้คงที่ เนื้อพรมที่มีขนฟูสูงแต่ไม่ควบแน่น จะมีช่องอากาศอยู่ในตัว ทำให้อากาศ ถ่ายเทได้สะดวก ไม่อมความร้อน และไม่ยอมให้ความร้อนผ่าน จากคุณสมบัติเหล่านี้ พรมจึงเป็นตัวช่วยควบคุมอุณหภูมิ ในห้องโดยสารให้คงที่ ซึ่งจะช่วยลดการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และลดการสึกหรอ ของเครื่องยนต์
- ช่วยซับเสียงรบกวนจากภายนอกเนื้อพรมที่มีลักษณะนุ่มหนา ทำให้มีคุณสมบัติในการกั้นหรือต้านเสียง ที่เกิดจากภายนอก ห้องโดยสาร เช่น เสียงยางที่บดไปบนพื้นถนน เสียงเครื่องยนต์และเสียงรบกวนอื่นๆ ทำให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารได้รับ ความเพลิดเพลินในการใช้รถ
การดูแลรักษาพรมในรถด้วยตัวท่านเอง สามารถทำได้ดังนี้
ขณะที่ท่านก้าวขึ้นรถ ควรขจัดสิ่งสกปรก เช่น โคลน ทราย กรวด หรือหิน ที่ติดมากับ รองเท้าให้ร่วงหลุดไปบนพื้นถนนก่อนที่จะก้าวขึ้นรถควรปัดหรือดูดฝุ่นอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ซึ่งถ้าหากเจ้าของรถ ไม่สะดวก ที่จะทำเอง ก็สามารถใช้บริการนี้ได้จากสถานีบริการทั่วๆ ไปใช้แผ่นยางซึ่งมีขายอยู่ทั่วๆ ไปปูทับบนพื้นพรมบริเวณที่มักจะถูกรองเท้าสัมผัสบ่อยๆ เพื่อเป็นตัวรองรับกรวดทรายหรือขี้ฝุ่น ซึ่งพรมรองเท้า หรือแผ่นยางนี้ จะสามารถ นำออกมาทำความสะอาดได้โดยสะอาดอย่างไรก็ตาม ความสกปรกบนพื้นพรมมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ วิธีทำความสะอาดก็จะแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ สาเหตุ แห่งความสกปรกที่อาจเกิดขึ้นได้ในกรณีต่างๆ ดังนี้
ขณะที่ท่านก้าวขึ้นรถ ควรขจัดสิ่งสกปรก เช่น โคลน ทราย กรวด หรือหิน ที่ติดมากับ รองเท้าให้ร่วงหลุดไปบนพื้นถนนก่อนที่จะก้าวขึ้นรถควรปัดหรือดูดฝุ่นอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ซึ่งถ้าหากเจ้าของรถ ไม่สะดวก ที่จะทำเอง ก็สามารถใช้บริการนี้ได้จากสถานีบริการทั่วๆ ไปใช้แผ่นยางซึ่งมีขายอยู่ทั่วๆ ไปปูทับบนพื้นพรมบริเวณที่มักจะถูกรองเท้าสัมผัสบ่อยๆ เพื่อเป็นตัวรองรับกรวดทรายหรือขี้ฝุ่น ซึ่งพรมรองเท้า หรือแผ่นยางนี้ จะสามารถ นำออกมาทำความสะอาดได้โดยสะอาดอย่างไรก็ตาม ความสกปรกบนพื้นพรมมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ วิธีทำความสะอาดก็จะแตกต่างกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ สาเหตุ แห่งความสกปรกที่อาจเกิดขึ้นได้ในกรณีต่างๆ ดังนี้
- ถ้าพรมเปียกน้ำเพียงเล็กน้อย ให้นำผ้าหรือกระดาษทิชชูมาซับน้ำออกนำรถมาจอดไว้กลางแดด โดยเปิดกระจกทิ้งไว้ ความร้อนจะช่วยทำให้พรมแห้งแต่ในกรณีที่น้ำเปียกพรมมาก ควรถอดเบาะนั่งออกก่อน หลังจากนั้นจึงถอดพรมออกมาซักแล้วผึ่งแดดจัดๆ เหมือนการตากผ้าทั่วไปเพียงแต่อาจต้องใช้เวลานานอย่างน้อย 2 วัน หรือจนกว่าพรมจะแห้งสนิทจึงนำเข้าที่ตามเดิม ซึ่งหากท่านไม่สามารถถอดอุปกรณ์ต่างๆ ได้ด้วยตนเอง วิธีที่ดีที่สุด คือนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อให้ช่างที่ชำนาญถอดพรมออกซัก
- พรมเปื้อนโคลนหรืออาเจียนการทำความสะอาดที่ถูกวิธี ควรใช้อุปกรณ์ตักเซาะเอาเศษความสกปรกออก หลังจากนั้นใช้ผ้าแห้งที่สะอาด หรือกระดาษซับความเปียกชื้นออกไปจนหมาด ควรเช็ดจากวงนอกเข้าไปกลางจุดที่เปื้อน เพื่อป้องกันความสกปรกขยายวงกว้างออกไป ถ้าความสกปรกยังไม่หมดไปใข้แชมพูซักพรมฉีดบริเวณนั้น หากภายในรถของท่านยังมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ติดอยู่ ควรนำรถไปจอดกลางแดดที่ร้อนจัดปิดกระจกทุกบานไว้ประมาณ 2-5 ชั่วโม จึงค่อยเปิดประตูรถให้ลมพัดผ่าน ความร้อนจากแสงแดดจะช่วยทำลายกลิ่นให้จางลงหรือหมดไป หากยังไม่หายสนิทก็ทำซ้ำเช่นนี้อีกจนกว่ากลิ่นจะจางลงไป
- หมากฝรั่งติดพรม การขูดเซาะออกขณะที่หมากฝรั่งอ่อนตัวทำได้ยาก เนื่องจากหมากฝรั่งจะเหนียวทำให้เกิดความเสียหายกับเนื้อพรมได้ และถ้าไม่ระวังหมากฝรั่งอาจจะเลอะเทอะกระจายเพิ่มขึ้น วิธีที่พึงปฏิบัติคือใช้ก้อนน้ำแข็งมาประคบที่หมากฝรั่งให้เย็นจนแข็งตัว จากนั้นก็ใช้ช้อนขูดออก จะทำให้หมากฝรั่งขูดออกได้ง่ายขึ้น
- พรมเปื้อนสารเคมี ในกรณีที่พรมเปื้อนสารเคมีที่เกิดจากน้ำยาทาเล็บ น้ำมันเครื่องหรือไขจารบี การซักด้วยน้ำเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่สามารถล้างคราบของสารเคมีออกได้หมด เพราะจะมีความมันติดหลงเหลืออยู่ ควรใช้แขมพูสำหรับซักพรม โดยเฉพาะมาทำการล้างออกทันทีก่อนที่สารเคมีเหล่านี้จะจับนานซึ่งอาจจะทำให้ล้างออกยาก