
การดูแลรักษาสีรถยนต์นั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปครับ ทั้งสำหรับมือสมัครเล่น หรือ มืออาชีพที่ล้างรถเป็นประจำอยู่แล้วในการดูแลสีรถยนต์เบื้องต้นนั้น เราก็จะมาเริ่มกันเลยนะครับว่ามีกี่ วิธีแบบไหนบ้าง เพราะบางครั้งอาจจะหาข้อมูลมาจาก อินเตอร์เน็ต ก็ดีจากผู้ที่มีประการณ์ก็ดีนะครับ ให้ทำความคิดเป็นกลางสะก่อนนะครับ และลองคิดตามว่ามันเป็นจริงอย่างที่อ่านมาไหมหรือได้ยินที่เขาบอกต่อกันมานะครับ 555555 เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
การดูแลรักษาสีรถยนต์นั้นไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปครับ ทั้งสำหรับมือสมัครเล่น หรือ มืออาชีพที่ล้างรถเป็นประจำอยู่แล้วในการดูแลสีรถยนต์เบื้องต้นนั้น เราก็จะมาเริ่มกันเลยนะครับว่ามีกี่ วิธีแบบไหนบ้าง เพราะบางครั้งอาจจะหาข้อมูลมาจาก อินเตอร์เน็ต ก็ดีจากผู้ที่มีประการณ์ก็ดีนะครับ ให้ทำความคิดเป็นกลางสะก่อนนะครับ และลองคิดตามว่ามันเป็นจริงอย่างที่อ่านมาไหมหรือได้ยินที่เขาบอกต่อกันมานะครับ 555555 เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า ในการนำรถยนต์ที่ท่านรักออกมาใช้งานตามท้องถนนนั้น เป็นธรรมดาครับที่ต้องเจอทั้ง ฝุ่น โคลน และอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง ฯลฯ ที่เอ่ยมาก็ดีไม่ได้เอ่ยมาก็ดีครับ ต่อไปนี้จะแบ่งเป็นข้อ ๆ เพื่อการปฎิบัติที่ถูกต้องให้มากที่สุดนะครับ
1. อันดับแรกเลยเมื่อขับกลับมาถึงที่บ้านปล่อยไว้ให้อุณภูมิที่ตัวรถนั้นเย็นลงสะหน่อยก่อน เพื่อพักผ่อนร่างกายไปในตัว
2. เตรียมอุปกรณ์ที่จะล้างรถ เช่น ถังน้ำ ผ้าขนหนูผืนพอดีมือขนาดประมาณ 30*30 cm ( ไม่แนะนำให้ใช้ฟองน้ำนะครับ)
3. ถ้ามีแชมพู่ล้างรถด้วยก็ได้หรือน้ำเปล่าก็ดีครับ
4. เปิดน้ำประปาแล้วเดินฉีดน้ำให้ทั่วรถก่อนเลยอันดับแรกเพื่อให้สิ่งสกปรกทั้งหลายนั้นหลุดออกไปก่อนขั้นแรก และเพื่อให้คราบฝุ่นหรือโคลนนั้นเปียกก่อน ( เพราะเวลาที่ใช้ผ้าถูกับสีรถนั้นจะได้ออกง่ายขึ้นและไม่เสี่ยงต่อการเกิดรอยขนแมว )
5.เมื่อฉีดน้ำชุ่มทั้งคันแล้วนั้น ก็เริ่มเอาผ้าที่เตรียมเอาไว้นั้นมาซับน้ำให้เปียกทั้งผืนนะครับ แล้วเปิดน้ำเลี้ยงไปด้วยเวลาที่เอาผ้าถูไปกับสีรถเพื่อที่จะให้โคลนที่ติดอยู่หรือ ฝุ่น แมลง นั้นหลุดออกไปด้วยเวลาที่โดนทั้งผ้าและน้ำถูไปพร้อม ๆ กัน ในส่วนนี้จะกันการเกิดรอยเส้นจากเศษฝุ่นที่ติดแน่นได้ครับ ( ล้างตั้งแต่บนหลังคาคือจุดสูงสุดของตัวรถแล้วค่อยไล่ลงมาเรื่อย ๆ ครับเป็นชิ้น ๆ ไปครับ )
6. เมื่อล้างครบทั้งตัวรถแล้วนั้น ที่นี้ก็เตรียมผ้าขนหนูหรือผ้าไมโครไฟเบอร์ ฯลฯ ขอให้เป็นผ้าที่นุ่มและมีขนหนานะครับ ( ไม่ควรเอาผ้าเนื้อแข็งเช่น ผ้าไนน์ลอน หรือ คอร์ต๊อน มาเช็ดเพราะจะทำให้สีรถเป็นรอยขนแมวได้นะครับ )
7. เช็ดน้ำที่เปียกจากตัวรถแห้งจนสนิทแล้วนั้น ที่นี้ก็มาถึงเวลาที่ต้องมาล้างที่ รองเท้าของรถ หรือล้อรถยนต์อันสวยงามนั้นเอง อุปกรณ์ก็จะมีแปลงทางมะพร้าว หรือแปลงที่มีขนหนานุ่มที่ไม่ทำลายล้อแม็กซ์นั้นเอง ( ทางที่ดีที่สุดคือควรใช้ผ้าถูที่ตัวล้อแม็กซ์จะดีที่สุด ส่วนตรงยางนั้นให้ใช้แปลงถูได้เต็มที่ครับ ) แล้วล้างซุ่มล้อเพื่อเอาโคลน เศษหิน เศษทราย ที่ติดมาในตอนที่รถวิ่งมานั้น พยายามเอาออกให้หมดครับเพื่อไม่ให้เกิดความชื้นในส่วนของซุ่มล้อได้ เพราะถ้ามีหลงเหลือเอาไว้เป็นเวลานาน ๆ นั้นจะทำให้เกิดสนิทที่เหล็กได้และต่อมาคือ รถจะผุไปตามระเบียบครับ ควรจะเอาออกให้ได้มากที่สุด แต่ถ้าไม่มันใจ ให้นำเข้าไปร้าน คาร์แคร์ใกล้บ้านท่านที่สะดวกที่สุดครับ เพราะร้านล้างรถเขาจะมีปั๊มน้ำแรงดันสูงและเอาไว้ฉีดใต้ท้องรถเพื่อที่จะเอาขี้โคลนที่ติดมาออกได้ดีที่สุด ( แต่ถ้าคิดว่ากลัวเด็กล้างไม่ได้ดังใจไปสะกิดใกล้ว่าน้องฉีดใต้ท้องตามชายล่างเยอะ ๆ หน่อยเดียวพี่ให้ติบ แล้วเอาเงินให้เด็กไปเลยครับ รับรองวิธีนี้ได้ผลแน่นอนครับ 5555 )
8.นำผ้าที่เตรียมเอาไว้เช็ดล้อต่างหากนะครับอย่าเอาไปปนกับผ้าล้างรถ ผ้าเช็ดแห้งนะครับ ควรที่จะแยกออกเป็นสัดส่วนกันไปเลยคนละผืนดีที่สุดแล้ว เช็ดล้อให้แห้งเพื่อป้องกันการเกิดคราบน้ำครับ
9. ส่วนที่รถล้างที่บ้านของท่านเองนั้นที่ไม่สามารถทำรถให้แห้งสนิทได้จะเพราะด้วยไม่มีเครื่องเป่าลมก็ดีหรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะทำให้ใต้ท้องรถนั้นแห้งสนิทได้ แนะนำคือให้ขับรถออกไปวิ่งสัก 5 - 10 กิโลเมตร ครับเพื่อที่จะให้น้ำนั้นโดนลมเป่าไปในตัวทุกจุดในใต้ท้องรถแห้งสนิทและจะได้ไม่มีความชื้นด้วยครับ รถของท่านก็จะไม่เกิดสนิท และเมื่อขับรถมาถึงที่บ้านก็แค่เอาไม้ขนไก่ปัดฝุ่นอีกที่ก็สะอาดแล้วครับ
นี้คือบทความวิธีการล้างรถแบบง่าย ๆ ที่สามารถทำกันเองได้ที่บ้านของท่าน แต่ถ้าท่านไม่สะดวกเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานก็ดีจากการเดินทางก็ดี แนะนำให้เข้าร้านคาร์แคร์ที่ท่านไว้ใจดีที่สุดครับ นี้คือทางออกอีกทางเลือกหนึ่งครับผม
บทความบทนี้อาจจะเป็นประโยนช์ในการดูแลรถยนต์ที่ท่านรักมากที่สุดอีกวิธีนึ่งนะครับ หากมีข้อผิดพลาดประการใดนั้น ผมขออภัยมา ณ. ที่นี้ด้วยครับ
ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยในรถที่ท่านรัก
GAPCARWASH DETAILCENTER
By. โต้ง GAPCARWASH DETAILCENTER