
สำหรับคนรักรถ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘รถยนต์’ เปรียบเสมือนลูกรักของคุณก็ไม่ปาน ต้องดูใหม่ สะอาด และดูดีอยู่เสมอ เผลอๆสะอาดกว่าห้องนอนของคุณเองซะอีก ซึ่งโดยปกติแล้วสารเคมีที่นำมาทำสีรถยนต์นั้น ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดีในระดับนึงอยู่แล้วค่ะ แต่ถ้าหากเราดูแล บำรุงรักษาอย่างถูกวิธี จะช่วยให้สภาพของรถไม่เสื่อม และอยู่กับเรานานมากขึ้นไปอีก
ข้อควรระวังเพื่อการรักษาสีรถยนต์
♥เรื่องสถานที่จอดรถก็เป็นเรื่องสำคัญนะคะ ไม่ควรจอดรถใกล้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยสารเคมี พวกโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ผลิตสารเคมี เพราะจะมีฝุ่นละอองต่างๆปลิวมาติดสีรถ ทำให้รถอาจมีค่าเป็นกรดหรือด่างเข้มข้น กัดสีรถให้เป็นดวงได้ หรือบางทีก็ทำให้สีอ่อนตัวลงค่ะ
♥หลีกเลี่ยงแสงแดด พยายามจอดในที่ร่ม อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น หรือถ้าจำเป็นต้องจอดตากแดดจริงๆ ควรใช้ผ้าคลุมกันแดดเอาไว้ 1 ชั้น
♥เมื่อขับรถผ่านบริเวณที่มีฝุ่น โคลน หรือชายทะเลเป็นเวลานานๆ ควรล้างสิ่งเหล่านั้น หรือคราบต่างๆที่โดนรถของเราออกให้หมด เพราะคราบเหล่านั้นสามารถดูดซับความชื้นได้ดีมาก ทำให้ผิวรถเสื่อมคุณภาพได้ง่าย
♥ระวังอย่าให้รถเกิดรอยขีดข่วน เพราะจะทำให้ตัวรถผุและลามออกเป็นบริเวณกว้าง
♥สารเคมีที่มีโอกาสถูกสีรถมากที่สุดคือ พวกน้ำมันเบรก น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น น้ำหอมติดรถยนต์ สิ่งของจำพวกนี้หากโดนรถยนต์เป็นคราบ ให้รีบล้างออกทันทีโดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำผสมสบู่อ่อนๆหรือแชมพูสำหรับล้างรถ ห้ามใช้ทินเนอร์หรือสารเคมีใดๆเด็ดขาด
♥เรื่องสถานที่จอดรถก็เป็นเรื่องสำคัญนะคะ ไม่ควรจอดรถใกล้กับโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยสารเคมี พวกโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ผลิตสารเคมี เพราะจะมีฝุ่นละอองต่างๆปลิวมาติดสีรถ ทำให้รถอาจมีค่าเป็นกรดหรือด่างเข้มข้น กัดสีรถให้เป็นดวงได้ หรือบางทีก็ทำให้สีอ่อนตัวลงค่ะ
♥หลีกเลี่ยงแสงแดด พยายามจอดในที่ร่ม อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับชื้น หรือถ้าจำเป็นต้องจอดตากแดดจริงๆ ควรใช้ผ้าคลุมกันแดดเอาไว้ 1 ชั้น
♥เมื่อขับรถผ่านบริเวณที่มีฝุ่น โคลน หรือชายทะเลเป็นเวลานานๆ ควรล้างสิ่งเหล่านั้น หรือคราบต่างๆที่โดนรถของเราออกให้หมด เพราะคราบเหล่านั้นสามารถดูดซับความชื้นได้ดีมาก ทำให้ผิวรถเสื่อมคุณภาพได้ง่าย
♥ระวังอย่าให้รถเกิดรอยขีดข่วน เพราะจะทำให้ตัวรถผุและลามออกเป็นบริเวณกว้าง
♥สารเคมีที่มีโอกาสถูกสีรถมากที่สุดคือ พวกน้ำมันเบรก น้ำมันเชื้อเพลิง น้ำมันหล่อลื่น น้ำหอมติดรถยนต์ สิ่งของจำพวกนี้หากโดนรถยนต์เป็นคราบ ให้รีบล้างออกทันทีโดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำผสมสบู่อ่อนๆหรือแชมพูสำหรับล้างรถ ห้ามใช้ทินเนอร์หรือสารเคมีใดๆเด็ดขาด
วิธีลบครายสติ๊กเกอร์บนสีรถยนต์
รอยคราบที่เกิดจากการแกะสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่บนผิวรถนั้น แก้ไขได้โดยใช้ยาขัด Extra100 แล้วตามด้วยแว๊กซ์อ่อนอีกครั้ง ถ้าบริเวณที่ลอกนั้น แตกต่างจากสีเดิมมากให้ใช้กระดาษทรายเบอร์ 1200 ขัดซ้ำแล้วตามด้วยแว็กซ์อีกครั้งค่ะ แต่ถ้าไม่แน่ใจแนะนำว่าเอารถเข้าศูนย์บริการ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดค่ะ
วิธีแก้ปัญหาสีรถด้าน
รถสีด้านเกิดจากการนำรถตากแดดบ่อยๆ หรือใช้งานมาแล้วเป็นเวลานานโดยขาดการดูแลรักษา วิธีที่ดีที่สุดคือการนำรถสุดรักไปทำสีใหม่ แต่ถ้าไม่มีเวลาล่ะก็ แนะนำให้ใช้แว็กซขัดพื้นผิวบริเวณนั้นๆ โดยเลือกใช้แว็กซ์ที่ถูกกับประเภทงานด้วยนะคะ การใช้แว็กซ์ขัดจะช่วยชลอการเสื่อมสภาพของสี แต่ก็ไม่สามารถทำให้สีรถกลับสู่สภาพเดิมเหมือนใหม่ได้ค่ะ นอกจากนี้รู้หรือไม่คะว่า...การล้างรถก็มีส่วนทำให้สีรถด้านขึ้นด้วยเช่นกัน แต่จะทำไงได้ล่ะ รถมันก็ต้องล้างนี่นา.. เพราะฉะนั้นทางออกคือ อย่าเพิ่งล้างรถช่วงที่เพิ่งใช้งานเสร็จ หรือขณะที่พื้นผิวของรถยังร้อนอยู่
รอยคราบที่เกิดจากการแกะสติ๊กเกอร์ที่ติดอยู่บนผิวรถนั้น แก้ไขได้โดยใช้ยาขัด Extra100 แล้วตามด้วยแว๊กซ์อ่อนอีกครั้ง ถ้าบริเวณที่ลอกนั้น แตกต่างจากสีเดิมมากให้ใช้กระดาษทรายเบอร์ 1200 ขัดซ้ำแล้วตามด้วยแว็กซ์อีกครั้งค่ะ แต่ถ้าไม่แน่ใจแนะนำว่าเอารถเข้าศูนย์บริการ น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดค่ะ
วิธีแก้ปัญหาสีรถด้าน
รถสีด้านเกิดจากการนำรถตากแดดบ่อยๆ หรือใช้งานมาแล้วเป็นเวลานานโดยขาดการดูแลรักษา วิธีที่ดีที่สุดคือการนำรถสุดรักไปทำสีใหม่ แต่ถ้าไม่มีเวลาล่ะก็ แนะนำให้ใช้แว็กซขัดพื้นผิวบริเวณนั้นๆ โดยเลือกใช้แว็กซ์ที่ถูกกับประเภทงานด้วยนะคะ การใช้แว็กซ์ขัดจะช่วยชลอการเสื่อมสภาพของสี แต่ก็ไม่สามารถทำให้สีรถกลับสู่สภาพเดิมเหมือนใหม่ได้ค่ะ นอกจากนี้รู้หรือไม่คะว่า...การล้างรถก็มีส่วนทำให้สีรถด้านขึ้นด้วยเช่นกัน แต่จะทำไงได้ล่ะ รถมันก็ต้องล้างนี่นา.. เพราะฉะนั้นทางออกคือ อย่าเพิ่งล้างรถช่วงที่เพิ่งใช้งานเสร็จ หรือขณะที่พื้นผิวของรถยังร้อนอยู่
สีที่ซ่อมใหม่ต่างกับสีเดิมของรถ
โดยทั่วไปแล้วงานซ่อมสีโดยเฉพาะสีเมทัลลิก (หรือสีที่มีสีบรอนซ์ผสม) ให้เหมือนสีเดิม 100% นั้นเป็นไปได้ยากทีเดียวค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการด้วยกัน ทั้งความซีดของสีเดิม แรงดันลมขณะพ่นสี อุณหภูมิของอากาศที่มีผลต่อการแห้งตัวของสี รวมถึงขนาดของหัวปืนพ่นสี
วิธีสังเกตง่ายๆคือ ถ้าเราซ่อมสีใหม่แล้ว เวลาผ่านไปสักพักได้สีที่กลมกลืนหรือใกล้เคียงกับสีเดิมถึง 95% ก็นับว่าเป็นงานซ่อมที่เยี่ยมแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าต่างจากเดิมมากจนเห็นได้ชัด นั่นแสดงว่าการผสมสี การพ่นของช่างซ่อมยังไม่ประณีตเท่าที่ควร แนะนำว่าควรไปแก้ไขสีใหม่อีกครั้งค่ะ
โดยทั่วไปแล้วงานซ่อมสีโดยเฉพาะสีเมทัลลิก (หรือสีที่มีสีบรอนซ์ผสม) ให้เหมือนสีเดิม 100% นั้นเป็นไปได้ยากทีเดียวค่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการด้วยกัน ทั้งความซีดของสีเดิม แรงดันลมขณะพ่นสี อุณหภูมิของอากาศที่มีผลต่อการแห้งตัวของสี รวมถึงขนาดของหัวปืนพ่นสี
วิธีสังเกตง่ายๆคือ ถ้าเราซ่อมสีใหม่แล้ว เวลาผ่านไปสักพักได้สีที่กลมกลืนหรือใกล้เคียงกับสีเดิมถึง 95% ก็นับว่าเป็นงานซ่อมที่เยี่ยมแล้วล่ะค่ะ แต่ถ้าต่างจากเดิมมากจนเห็นได้ชัด นั่นแสดงว่าการผสมสี การพ่นของช่างซ่อมยังไม่ประณีตเท่าที่ควร แนะนำว่าควรไปแก้ไขสีใหม่อีกครั้งค่ะ
การทำความสะอาดรถยนต์อย่างถูกต้อง
เพราะเรื่องความสะอาดเป็นสิ่งที่สำคัญเสมอ เจ้าของรถควรเอาใจใส่อย่างเป็นประจำ เพราะจะเป็นผลดีต่อสีรถ วิธืทำความสะอาดที่ถูกต้องมีดังนี้ค่ะ
♥ใช้ไม้ขนไก่หรือผ้าแห้งนุ่มปัดหรือเช็ดฝุ่นออกเบาๆ ผ้าที่ใช้ต้องไม่หยาบหรือมีของแข็งใดๆติดอยู่
♥หากปัดหรือเช็ดออกแล้วยังไม่สะอาดพอ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออก แต่ไม่ควรเช็ดอย่างรุนแรง เพราะอาจเกิดรอยขีดข่วนบนตัวรถได้
♥ใช้น้ำสะอาดและล้างออกอย่างสะอาดหมดจด ถ้าทำได้อย่าลืมฉีดน้ำล้างดิน โคลน หรือสิ่งสกปรกใต้ท้องรถให้สะอาดด้วยการใช้แปรงอ่อนๆ ขัดขณะฉีดน้ำล้าง ใช้ผ้านุ่มผสมสบู่ล้างครั้งนึง แล้วล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
♥ล้างรถจากส่วนบนสุดของรถลงมา ไม่ควรใช้แปรงขัดเป็นอันขาด ใช้ผ้านุ่มๆ ฟองน้ำ หรือหนังชามัวส์เท่านั้นนะคะ เพราะสีอาจจะถลอกได้ค่ะ
♥คราบสกปรกที่น้ำธรรมดาล้างไม่ออก ให้ใช้น้ำสบู่ล้างแทนนะคะ ไม่ควรใช้ผงซักฟอกเป็นอันขาด
♥เมื่อล้างน้ำแล้ว ต้องเช็ดให้แห้งทันที เพราะการปล่อยให้น้ำแห้งนั้น จะเกิดคราบเป็นดวงๆติดอยู่บนตัวรถ
♥ขั้นตอนสุดท้าย ใช้สารเคมีเคลือบสีพวกครีมขี้ผึ้งขัดให้เงางาม แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วจ้ะ
ขอบขอบคุณบทความดีๆจาก:mglobemall.com
เพราะเรื่องความสะอาดเป็นสิ่งที่สำคัญเสมอ เจ้าของรถควรเอาใจใส่อย่างเป็นประจำ เพราะจะเป็นผลดีต่อสีรถ วิธืทำความสะอาดที่ถูกต้องมีดังนี้ค่ะ
♥ใช้ไม้ขนไก่หรือผ้าแห้งนุ่มปัดหรือเช็ดฝุ่นออกเบาๆ ผ้าที่ใช้ต้องไม่หยาบหรือมีของแข็งใดๆติดอยู่
♥หากปัดหรือเช็ดออกแล้วยังไม่สะอาดพอ ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดออก แต่ไม่ควรเช็ดอย่างรุนแรง เพราะอาจเกิดรอยขีดข่วนบนตัวรถได้
♥ใช้น้ำสะอาดและล้างออกอย่างสะอาดหมดจด ถ้าทำได้อย่าลืมฉีดน้ำล้างดิน โคลน หรือสิ่งสกปรกใต้ท้องรถให้สะอาดด้วยการใช้แปรงอ่อนๆ ขัดขณะฉีดน้ำล้าง ใช้ผ้านุ่มผสมสบู่ล้างครั้งนึง แล้วล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
♥ล้างรถจากส่วนบนสุดของรถลงมา ไม่ควรใช้แปรงขัดเป็นอันขาด ใช้ผ้านุ่มๆ ฟองน้ำ หรือหนังชามัวส์เท่านั้นนะคะ เพราะสีอาจจะถลอกได้ค่ะ
♥คราบสกปรกที่น้ำธรรมดาล้างไม่ออก ให้ใช้น้ำสบู่ล้างแทนนะคะ ไม่ควรใช้ผงซักฟอกเป็นอันขาด
♥เมื่อล้างน้ำแล้ว ต้องเช็ดให้แห้งทันที เพราะการปล่อยให้น้ำแห้งนั้น จะเกิดคราบเป็นดวงๆติดอยู่บนตัวรถ
♥ขั้นตอนสุดท้าย ใช้สารเคมีเคลือบสีพวกครีมขี้ผึ้งขัดให้เงางาม แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วจ้ะ
ขอบขอบคุณบทความดีๆจาก:mglobemall.com